การศึกษาเชิงปฏิวัติที่ตีพิมพ์ใน World Psychiatry ท้าทายฉลากการวินิจฉัยแบบเดิมสำหรับภาวะที่มีความแตกต่างทางระบบประสาท โดยนำเสนอกรอบการทำงานใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงการดูแลสุขภาพจิตและการช่วยเหลือผู้คนนับล้านทั่วโลก
การศึกษาครั้งสำคัญล่าสุด การตีพิมพ์ ในวารสารจิตเวชศาสตร์ชั้นนำ World Psychiatry เสนอการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ในการวินิจฉัยและทำความเข้าใจภาวะผิดปกติทางระบบประสาท การวิจัยซึ่งนำโดย Giorgia Michelini อาจารย์ด้านจิตวิทยาที่ Queen Mary University of London สนับสนุนกรอบแนวคิดแบบทรานส์ไดอะกนอสติกที่มองภาวะต่างๆ เช่น ออทิซึม ADHD และความบกพร่องทางการเรียนรู้เป็นจุดบนสเปกตรัมแทนที่จะเป็นหมวดหมู่ที่แยกจากกัน
“การรับรู้ถึงลักษณะที่ทับซ้อนกันของภาวะที่แตกต่างจากระบบประสาท ช่วยให้เราเข้าใจการแสดงออกที่หลากหลายของภาวะดังกล่าวได้แม่นยำและครอบคลุมมากขึ้น” มิเชลินีกล่าวใน ข่าวประชาสัมพันธ์“มุมมองใหม่นี้มีศักยภาพที่จะปฏิวัติวิธีการระบุ ประเมิน และสนับสนุนความต้องการด้านสุขภาพจิตของบุคคลที่มีความผิดปกติทางระบบประสาท”
ประมาณ 15% ของประชากรโลกมีความผิดปกติทางระบบประสาท โดยมักประสบกับภาวะที่ซ้ำซ้อนกัน รวมถึงปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล ระบบการวินิจฉัยที่มีอยู่ เช่น DSM-5 และ ICD-11 มักจะแยกภาวะเหล่านี้เป็นหมวดหมู่ที่แตกต่างกัน โดยไม่คำนึงถึงความเกี่ยวข้องกันและปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของภาวะเหล่านี้
มิชลินีและทีมผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติเสนอแนวทางแบบองค์รวมที่เน้นที่ความเหมือนกันของสภาวะที่ระบบประสาทแตกต่างกัน "สเปกตรัมการพัฒนาของระบบประสาท" ที่เสนอนี้ยอมรับลักษณะร่วมกัน ช่วยให้สามารถประเมินได้เป็นรายบุคคลและละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น
มิเชลินีกล่าวเสริมว่า “การก้าวข้ามคำจำกัดความการวินิจฉัยที่เข้มงวดเกินไปจะทำให้แพทย์สามารถให้การสนับสนุนและการแทรกแซงที่เหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีความผิดปกติทางระบบประสาทที่หลากหลาย” “การเน้นที่จุดแข็งและความท้าทายเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลจะช่วยให้เราสามารถปรับปรุงความเป็นอยู่โดยรวมและคุณภาพชีวิตของบุคคลนั้นได้”
กรอบการทำงานเชิงนวัตกรรมนี้มุ่งหวังที่จะให้มีการระบุและการสนับสนุนที่ดีขึ้นสำหรับความท้าทายด้านสุขภาพจิตเพิ่มเติม ซึ่งมักเกิดขึ้นพร้อมกับสภาวะการพัฒนาของระบบประสาท
การศึกษาครั้งนี้ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญในการทำความเข้าใจความหลากหลายทางระบบประสาทและปฏิสัมพันธ์ระหว่างความหลากหลายทางระบบประสาทกับสุขภาพจิต การวิจัยของทีมงานท้าทายคำจำกัดความแบบเดิมๆ และส่งเสริมมุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งทำให้มีแนวโน้มว่าระบบการดูแลสุขภาพจิตจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

